วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

การใช้วัสดุตกแต่งบ้าน

 ปัจจุบันมีวัสดุตกแต่งใหม่ๆผลิตออกมาให้เลือกมากมาย ซึ่งวัสดุต่างๆก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. Textile Wall Covering เป็นผืนผ้าที่ทอขึ้นเพื่อใช้ปิดผนัง บรรจุเป็นม้วนคล้ายวอลล์เปเปอร์ แต่จำหน่ายเป็นตารางเมตร เหมาะสำหรับใช้ปกปิดผนังที่ไม่เรียบร้อย ให้ความรู้สึกหรูหราลักษณะใกล้เคียงกับ Wall Furnishing ซึ่งเป็นการนำผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ที่มีความหนามาใช้ปิดผนัง นอกจากนี้ยังมีชนิดที่นำเส้นใยธรรมชาติเช่น ปอ ผักตบชวา มาสานเป็นผืน ให้ผิวสัมผ้สหยาบ แต่มีข้อด้วยคือเห็นรอยต่อระหว่างแผ่นค่อนข้างชัดและต้องระวังเรื่องปลวก เหมาะสำหรับบ้านที่ตกแต่งสไตล์โอเรียนทัล หรือทรอปิคอล

2. Glass Mosaic คือ โมเสคที่ได้จากแก้วซึ่งนำไปเผาแล้วตัดเป็นชิ้นเล็กๆ โดยมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 0.5-2.5 นิ้ว เมื่อปูแล้วจะได้ผิวที่รียบ สามารถปูบนพื้นหรือผนังโค้งได้ดี ดูหรูหรา เหมาะกับบ้านทุกสไตล์ขึ้นอยู่กับสีสันที่เลือกใช้ มีทั้งแบบใส แบบขุ่น และแบบที่ผสมทอง เงิน หรือโลหะอื่นๆ ทำให้ดูแวววาว นอกจากจะใช้ปูเป็นสีเดียวล้วนก็สามารถปูเป็นลวดลายหรือคละสี(Random Blend) ได้อีกด้วย

3.  Bamboo Flooring คือพื้นไม้สำเร็จรูปที่ทำจากไม้ไผ่ซึ่งนำมาอัดด้วยระบบไฮดรอลิคให้เป็นแผ่น แล้วเคลือบผิวหน้าด้วยยูรีเทน โดยใช้ไม้ไผ่ที่มีการเจริญเติบโตเต็มที่ มีขนาดลำต้นใหญ่ จึงมีความแข็งแกร่ง ทนต่อรอยขีดข่วน และให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติ มีลวดลายของปล้องไม้ไผ่ เหมาะกับบ้านที่ตกแต่งสไตล์โอเรียนทอล มีให้เลือกทั้งสีธรรมชาติและสีน้ำตาลเข้ม สามารถใช้น้ำยาเคลือบรักษาเนื้อไม้ได้ มีขนาดความหนา 12 และ 15 มม. ราคาตารางเมตรละประมาณ 1600 บาท

4. ไม้อัด OSB (Oriented Strand Board) เกิดจากการนำเศษไม้สนมาอัดกาวให้เป็น 2 แผ่น มี 2 ชนิดคือ สำหรับใช้ปูพื้นซึ่งมีความหนา 12 มม. มี 5 สีให้เลือก คือ เทา แดง น้ำเงิน ขาว เบจ และสีธรรมชาติ ซึ่งนิยมนำมาปูพื้นร้านอาหาร สถานที่สาธารณะ หรือกรุผนัง กรุฝ้า ทำเฟอร์นิเจอร์ หรือใช้ในงานโครงสร้างเพราะสามารถกันน้ำได้ แผ่นไม้อัด OSB มีขนาดมาตรฐาน 120 x 240 เซนติเมตร มีความหนาตั้งแต่ 10-20 มม. แผ่นไม้มีพื้นผิวหยาบและลวดลายที่เด่นชัด จึงเหมาะจะใช้เมื่อต้องการให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ

5. วีเนียร์ลายซีบราโน วีเนียร์ (Veneers) คือแผ่นไม้บางๆที่ฝาน ปอก หรือเลื่อยจากไม้ซุงแล้วประกบด้านหลังด้วยวัสดุที่เพิ่มความหนาและความแข็ง แรง เช่น กระดาษ แผ่นไม้อัด หรือเมลามีน เดิมนิยมนำมาทำเป็นท็อปเคาน์เตอร์ในครัว หรือบานตู้ ปัจจุบันมักนิยมนำมาตกแต่งผิวผนัง โดยติดวีเนียร์เข้ากับแผ่นไม้อัดหนาประมาณ 4-6 มม. แล้วนำไปติดกับผนังที่ตีโครงไม้(ไม่ควรใช้กับผนังปูน) แล้วเคลือบด้วยแล็กเกอร์ หรือยูรีเทนเพื่อป้องกนรอยขีดข่วน วีเนียร์ไม้มีให้เลือกหลากสีหลายลาย ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ โดยลายที่เห็นลวดลายไม้ชัดเจนเช่นลายซีบราโน(ดังภาพ) เป็นลายที่กำลังได้รับความนิยม ให้ความรู้สึกทันสมัย ซึ่งในปัจจุบันมีการสร้างลายเลียนแบบไม้ธรรมชาติหรือที่เรียกว่าวิธี Recompose ลงบนวีเนียร์แทนการใช้ไม้ลายธรรมชาติ เนื่องจากหาได้ยากและราคาแพง สำหรับวีเนียร์ลายซีบราโนแบบรีคอมโพส ราคาอยู่ที่ประมาณ 1800 บาทต่อตารางเมตร

6. สีอีพ็อกซี่ ( Epoxy Coating) คือสีที่ใช้สำหรับเคลือบผิวคอนกรีต มี 2 ชนิดคือ แบบอีพ็อกซี่ทั่วไป และแบบที่ปรับผิวเรียบด้วยตัวเอง(Selfleveling) นิยมใช้กับพื้นโกดังสินค้าหรือบ้านที่ต้องการตกแต่งในสไตล์ดิบๆ หรืออินดัสเตรียลลุค เนื่องจากมีความทนทานต่อสารเคมี ทนแรงขัดถูและแรงกระแทก  ทำความสะอาดง่ายแต่ไม่ทนต่อรังสียูวี จึงไม่ควรใช้ภายนอกอาคาร หรือบริเวณที่ต้องโดนแสงแดดโดยตรง สนนราคาต่อตารางเมตร ประมาณ1000 เมตร

7. หินสังเคราะห์(Solid Surface) บางครั้งเรียกว่าหินเทียม หรือเรียกตามชื่อทางการค้า เช่น โคเรียน(Corian) ไฮแมคส์(Hi-Macs) หรือโพริด็อท(Peridot) ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์(บางชนิดมีส่วนผสมของหินด้วย) ที่มีความแข็งแกร่ง ทนทานต่อการขีดข่วน ไม่ซึมน้ำเพราะพื้นผิวไม่มีรูพรุน ไม่เป็นเชื้อราและทำความสะอาดง่าย จึงเหมาะจะนำมาทำเป็นท็อปเคาน์เตอร์ในครัวหรือในห้องน้ำ สามารถขึ้นรูปได้ตามที่ต้องการ มีความกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน มีสีสันให้เลือกมากมาย ทั้งสีล้วนและลวดลายเลียนแบบธรรมชาติ รวมถึงแบบโปร่งแสง เหมาะกับบ้านที่ต้องการตกแต่งให้ดูทันสมัยหรือล้ำยุคแบบอวกาศ

8. สแตนเลสตีล(Stainless Steel) ปกติครัวสแตนเลสจะนิยมใช้งานกันในร้านอาหารหรือครัวในโรงแรมต่างๆ เพราะมีความแข็งแรง ทนต่อการใช้งานหนักได้ดี เป็นวัสดุที่ไม่ซึมน้ำ จึงเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความเปียกชื้นสูง ทำความสะอาดง่าย เนื่องจากผิวของวัสดุไม่สะสมคราบสกปรก ปัจจุบันครัวในบ้านก็ใช้สแตนเลสเป็นท็อปเคาน์เตอร์กันมากขึ้น เพราะทนต่อกรด ด่าง สารเคมี และความร้อนได้ดี มีให้เลือกใช้ทั้งแบบที่มีผิวมันเงาแบบผิวขัดด้าน และแบบปั๊มลาย ช่วยให้ครัวดูสวยงามและทันสมัย สำหรับสแตนเลสผิวมันวาวจะเกิดรอยขูดขีดและคราบน้ำมันได้ง่ายกว่า ดังนั้น ในการทำความสะอาดจึงไม่ควรใช้แผ่นใยขัดถูแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย

9. หิน Limestone คือหินธรรมชาติที่นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสและประเทศในแถบยุโรป มีสีสันในโทนธรรมชาติให้เลือกถึง 9 สี และมีพื้นผิวที่หลากหลาย สามารถใช้ปูได้ทั้งพื้นและผนัง รวมถึงใช้ปูห้องน้ำ มีความหนาตั้งแต่ 2 มม. ขนาดของแผ่นหินสามารถตัดได้ตามสั่ง สำหรับแผ่นมาตรฐานมีขนาด 30 x 30 ซม. และ 40 x 40 ซม. ราคาตารางเมตรละ 4700 บาท และขนาด 60 x 60 ซม. ราคาตารางเมตรละ 5,750 บาท การติดตั้งสามารถทำได้2 วิธีคือ ติดด้วยปูนกาวบนผนังฉาบปูนสำหรับหินแผ่นเล็ก และติดตั้งด้วยระบบ Dry Process สำหรับหินแผ่นใหญ่ ซึ่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง ส่วนการทำความสะอาด ให้ใช้ผ้าหมาดเช็ด และควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของกรด

10. กระเบื้องแกรนิต(Granite Tile) เป็นกระเบื้องที่ได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่ง สามารถรับน้ำหนักและทนต่อแรงเสียดทานได้ดี เพราะผิวหน้าของแผ่นกระเบื้องมีส่วนผสมของหินธรรมชาติหรือหินแกรนิตนั่นเอง โดยนำมาเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 1300 องศาเซลเซียส ทำให้เนื้อกระเบื้องมีความแข็งแกร่ง และมีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ จึงเหมาะกับการปูพื้นและผนัง โดยใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร กระเบื้องแกรนิตมีหลากหลายรูปทรงให้เลือกใช้งาน อาทิ รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือรูปร่างอิสระ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบพื้นสัมผัสของหินธรรมชาติ การติดตั้งจะคล้ายๆกับการปูกระเบื้องเซรามิค เพียงแต่ช่างปูกระเบื้องต้องมีความประณีต หรือใส่ใจในรายละเอียดต่างๆอาทิ การจัดวางหรือการเรียงลวดลาย การยาแนวร่องระหว่างแผ่น เป็นต้น

11. พื้นไม้ลามิเนต (Laminated Flooring) คือแผ่นไม้สำเร็จรูปที่เกิดจากการนำเศษไม้มาอัดเป็นแผ่น ปิดผิวหน้าด้วยแผ่นฟิล์มพิมพ์ลายไม้ และเคลือบผิวหน้าด้วยเมลามีนเรซินเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน และรองพื้นด้านล่างด้วยฟิล์มป้องกันความชื้นจากด้านล่าง มีขนาด ลวดลาย และสีสันของไม้ที่หลากหลายให้เลือกใช้ รวมทั้งที่เป็นไม้ปาร์เก้ต์และแบบย้อมสี โดยมากจะใช้การติดตั้งด้วยวิธีเข้าร่องลิ้น ไม่ต้องใช้กาวติด จึงติดตั้งได้สะดวกรวดเร็ว นิยมใช้ปูพื้นหรือผนังในบ้านพักอาศัย อย่างไรก็ตาม โดยธรรมชาติของไม้ควรระมัดระวังปัญหาเรื่องปลวกและแมลงด้วย

12. วอลล์เปเปอร์ลายไทย ปัจจุบันมีผู้ผลิตวอลล์เปเปอร์ที่เป็นลายไทย คือพิมพ์ลายด้วยสีทองเพื่อแทนการลงรักปิดทองที่ผนังโบสถ์ มีทั้งที่เป็นลายดอกและลายดาวเพดาน มีคุณสมบัติและวิธีการติดตั้งเหมือนกับวอลล์เปเปอร์ทั่วไป จำหน่ยเป็นม้วน  ม้วนหนึ่งปูได้4.5 ตร.ม. ราคาม้วนละ 1100 บาท นอกจากจะนิยมใช้กับการตกแต่งผนังและเพดานโบสถ์แล้ว ยังเหมาะกับการใช้ในสถานที่ที่ต้องการสร้างบรรยากาศแบบไทย รวมทั้งใช้ในบ้านด้วย

13. หินหน้ากระแทกธรรมชาติ หินเป็นวัสดุธรรมชาติอีกชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กันมากในงานตกแต่งพื้นผนังทั้ง ภายในและภายนอกอาคารมาเป็นเวลานานแล้ว เนื่องจากตัววัสดุมีความแข็งแรง ทนทานต่อการสึกกร่อนรวมถึงสามารถรับน้ำหนักได้ดี หินทราย(Sand Stone) คือหินที่ประกอบด้วยเม็ดทรายที่เชื่อมติดกันโดยธรรมชาติ มีให้เลือกใช้งานหลากหลายสี ตั้งแต่สีขาวถึงเทาแก่ เขียว หรือน้ำตาลปนแดง ปัจจุบันมีให้เลือกหลายรูปแบบอาทิ หินทรายหน้าธรรมชาติ พื้นผิวเป็นคลื่นจากการสกัดผิว และหินทรายกระแทกหน้า ซึ่งได้จากการนำหินทรายผิวขัดเรียบมาตอกหน้าให้มีพื้นผิวขรุขระ ต่างไปจากหินทรายหน้าธรรมชาติในรูปแบบเดิมๆ ดังนั้นหินทรายกระแทกหน้าจึงมีราคาสูงกว่าหินทรายทั่วไปประมาณ 2 เท่า ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1300 บาทต่อตารางเมตร

14. สีเท็กซ์เจอร์ (Texture Paint) เป็นวัสดุชนิดเหลวข้น ซึ่งประกอบด้วยเม็ดหินธรรมชาติ ลาเท็กซ์ อะครีลิคเรซิน และน้ำยาเคมีต่างๆที่ช่วยป้องกันรักษาความชื้น เชื้อราและตะไคร่น้ำ ทนต่อสภาพภูมิอากาศ และมีคุณสมบัติเป็นฉนวนที่ดี ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในให้คงที่ และลดเลียงสะท้อน มีน้ำหนักเบาประมาณ2-3กิโลกรัมต่อตร.ม. จึงช่วยลดปัญหาเรื่องอาคารทรุดตัว สามารถเจาะหรือตอกตะปูผ่านได้โดยพื้นผิวไม่แตกร้าว สีเท็กซ์เจอร์สามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ติดตั้งโดยกรรมวิธีการพ่น ฉาบ หรือใช้ลูกกลิ้ง สามารถทำเป็นผืนแผ่นเดียวกันได้โดยไม่มีรอยต่อ โดยยึดเกาะได้กับพื้นผิวแทบทุกชนิด เช่นผนังปูน ยิปซัม ไม้อัด กระจก หรือโลหะต่างๆ และสามารถพ่นบนเฟอร์นิเจอร์ได้ด้วย สำหรับอัตราค่าบริการต่ำสุดเริ่มต้นที่ตร.ม.ละ200บาทเศษ ไปจนถึงหลักพันบาท โดยราคาที่แตกต่างกันนั้นเกิดจากการใช้หินคนละประเภท ถ้าเป็นหินคัด (เม็ดหินสวย) ราคาก็จะสูง รวมทั้งปริมาณงานที่ทำ ถ้าพื้นที่น้อยกว่า 50 ตารางเมตรก็จะคิดเป็นงานเหมา

15. ไม้สนเรดิเอต้า ไม้สนชนิดนี้เป็นไม้ที่นิยมปลูกกันในประเทศนิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในงานอุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วไป เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นหลายประการ อาทิ มีความแข็งแรงทนทาน เพราะผ่านการอบแห้งและอาบน้ำยารักษาเนื้อไม้เพื่อป้องกันการบิดงอหรือแตกตรง บริเวณปลายไม้ จึงใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร และสามารถใช้ได้ทั้งงานตกแต่งและงานโครงสร้าง เป็นได้ทั้งพื้น ผนัง รวมทั้งเฟอรนิเจอร์ มีหลายเกรดให้เลือกใช้

16. แผ่นไม้มุงหลังคา หรือแป้นเกล็ดนั่นเอง ในบ้านเราส่วนใหญ่ทำมาจากไม้สักและไม้แดง ซึ่งเป็นไม่ที่มีคุณสมบัติทนต่อความร้อนชื้นและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ได้ดี โดยเฉพาะไม้สักจะมีกลิ่นเฉพาะตัว ทำให้ไม่มีแมลงกินไม้ไม่มารบกวร มีอายุการใช้งานยาวนาน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพของเนื้อไม้ด้วย เช่นถ้าเป็นไม้เกรด A คุณภาพดี ไม่มีรอยแตกร้าว จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 50 ปีขึ้นไป โดยมีหน้ากว้างคละขนาดกันมาให้เลือกใช้ตั้งแต่ 4-8 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่แผ่นละ 12 บาท หรือประมาณตารางเมตรละ 700 บาท(ไม่รวมค่าติดตั้ง)

17. โลหะลอน(หลังคาเหล็ก) ทำจากแผ่นเหล็กอาบสังกะสีเคลือบสี ดัดเป็นลูกฟูกหรือลอนเหลี่ยม มักใช้กับหลังคาโรงงานหรืออาคารที่ต้องการคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีเทศนิควิธีการผลิตที่ก้าวหน้า เหล็กเคลือบสีบางประเภทที่มีส่วนผสมของอลูมิเนียมสามารถต้านทานการกัดกร่อน ในสภาวะกาศที่แตกต่างกันออกไปได้ดี ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการใช้งานนาน มีสีต่างๆให้เลือกมากมาย เราจึงสามารถนำมาใช้ประกอบกับการออกแบบสีสันอาคารสมัยใหม่ให้เกิดความสวยงาม ได้อีกรูปแบบหนึ่ง แต่โลหะลอนบางชนิดก็มีข้อเสีย  คือจะร้อนมากในเวลากลางวัน เพราะโลหะจะไม่เป็นฉนวนป้องกันความร้อน และอาจมีเสียงดังเมื่อมีฝนตก ดังนั้น การเลือกใช้วัสดุมุงหลังคาประเภทนี้ต้องคำนึงถึงการป้องกันความร้อนและเสียง ดังจากหลังคาเข้าสู่อาคารเป็นอย่างดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น