วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

การออกแบบห้องครัว

การออกแบบห้องครัว แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ คือ
1. แบบติดตั้งกับผนังด้านเดียว เหมาะสำหรับห้องที่มีเนื้อที่น้อย
2. แบบผนังสองด้าน มีทางเดินตรงกลาง มีลักษณะ คล้ายแบบแรก แต่เพิ่มเนื้อที่อีก 1 ด้าน
3. แบบตัวแอล ลักษณะนี้เป็นที่นิยมกันมาก แต่ต้องมี พื้นที่มากกว่า 2 แบบแรก
4. แบบตัวยู เป็นแบบที่ดีที่สุด ใช้พื้นที่ได้มาก แต่ต้อง มีห้องกว้างพอสมควร เพราะต้องใช้ผนังถึง 3 ด้าน
      ห้องครัวที่ดีควรลดระดับต่ำกว่าส่วนอื่นของบ้านประ มาณ 10 ซม. เพื่อเวลาทำความสะอาดพื้นหรือล้างพื้นห้อง น้ำจะได้ไม่ไหลเปรอะเปื้อนห้องอื่น และที่สำคัญอีกอย่างคือ ควรให้พื้นมีความลาดเอียงเล็กน้อยสำหรับการไหลของน้ำ ลงท่อระบายน้ำที่เตรียมไว้ พื้นห้องครัวควรปูด้วยวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เช่น กระเบื้องเซรามิค หรือหินแกรนิต สำหรับ ผนังบางส่วนอาจบุกระเบื้องชนิดบุผนัง เนื่องจากมีผิวมันลื่น เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย
     ส่วนผนังที่เหลือก็ควรทาด้วยสีน้ำมัน หรือสีอะครีลิคกึ่งเงา แทนการใช้สีน้ำพลาสติคสำหรับทาภายในทั่วไป เนื่องจากจะคงทนกว่า และง่ายต่อการทำความสะอาดคราบเขม่า คราบควัน ที่เกิดจากการหุงต้มอาหารได้ดีกว่าสีน้ำมันทั่วไป
    วิธีการวางเครื่องใช้ของครัวก็คือ วางตามวิธีการทำ อาหารทั่วไป เช่น ก่อนอื่นต้องนำอาหารที่จะทำออกมาจากตู้เย็น มาพักไว้ที่เคาน์เตอร์ก่อน หลังจากนั้นก็จัดเตรียมเครื่องปรุง ส่วนผสมเรียบร้อยแล้ว ก็ปรุงอาหารด้วยเตาไฟหรือเตาอบ อาหารที่ปรุงเสร็จก็มาวางไว้ที่เคาน์เตอร์ เพื่อเสิร์ฟต่อไปอีก ทีหนึ่ง ส่วนที่อยู่ถัดมาก็คือ อ่างล้างจาน เพื่อรับจานและ ช้อนที่ใช้แล้ว ถ้าเราจัดทุกอย่างให้ถูกต้องตามลำดับขั้น ก็ จะทำให้การปรุงอาหารสะดวกและรวดเร็ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น